Search

หาทีมเศรษฐกิจใหม่ 3 ป.ถกลับ โผ ครม.พล่าน - ไทยรัฐ

roe.prelol.com

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าบรรยากาศการประชุมค่อนข้างอึมครึม มีการนั่งแยกกลุ่มกันอย่างชัดเจน ขณะที่นายอุตตม สาวนายน รมว.คลังและรักษาการหัวหน้าพรรคและนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงานและรักษาการเลขาธิการพรรค นั่งอยู่หัวโต๊ะ ได้ทักทายผู้เข้าประชุมเป็นระยะๆ จนผู้เข้าร่วมประชุมเกือบครบแล้ว นายวิรัชที่นั่งอยู่ท้ายห้องได้ขอให้นายอุตตมพูดอะไรสักอย่างเพื่อให้สื่อมวลชนเก็บภาพ นายวิรัชเรียกนายอุตตมว่า “ท่านหัวหน้าครับ พูดอะไรสักหน่อยกับที่ประชุม” โดยนายอุตตมกล่าวทักทายสื่อมวลชนและผู้เข้าร่วมประชุม ก่อนเจ้าหน้าที่พรรคเชิญสื่อมวลชนออกจากห้องประชุม

23 มิ.ย.เทียบเชิญ “หน.ป้อม” นั่งยาวๆ

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า วันที่ 23 มิ.ย.เวลา 08.30 น. ก่อนการประชุม ครม.แกนนำและ ส.ส.ส่วนหนึ่งจะเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียนเชิญ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและประธานยุทธศาสตร์พรรค มาเป็นหัวหน้าพรรค ที่จะเสนอชื่อในการประชุมใหญ่สามัญพรรคในวันที่ 27 มิ.ย.เป็นไปตามประเพณีไทย ต้องไปเชิญบอกกล่าวก่อน ไม่ใช่อยู่ๆไปเสนอชื่อเลย ได้นัดไว้แล้ว เมื่อถามว่ากระแสข่าว พล.อ.ประวิตรจะเป็นหัวหน้าพรรค เพื่อขัดตาทัพระยะหนึ่งเท่านั้น นายวิรัชกล่าวว่า ก็อยู่ไปเรื่อยๆจะอยู่ 6 เดือนได้อย่างไร ด้วยบุคคลิก พล.อ.ประวิตรที่มีความปรองดอง เชื่อว่าจะป้องกันความขัดแย้ง และช่วยให้พรรคแข็งแกร่ง ช่วยให้ความเชื่อมั่นในพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเป็นผู้ใหญ่ที่ทุกพรรคให้ความเคารพ

“สมศักดิ์” ลั่น หน.พรรคมีสิทธิชงชื่อ รมต.

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และรักษาการกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรค ปรารถนาว่าเมื่อมีการปรับเปลี่ยนแล้ว อะไรก็ตามที่จะเป็นแนวนโยบายต้องทำให้เข้าถึงประชาชน ทั้งการแก้ปัญหาความยากจน ต้องทำให้สังคมชนบทมีความสุขโดยใช้พรรคเป็นกลไกขับเคลื่อน แต่ต้องดูก่อนว่าใครมาเป็นกรรมการบริหารพรรคบ้าง ส่วนหัวหน้าพรรคก็พอเห็นกันอยู่แล้วคงไม่วิพากษ์วิจารณ์อะไร แต่หวังว่าพี่น้องประชาชนจะมีความสุขมากขึ้น เมื่อถามว่าปรับโครงสร้างพรรคแล้วจะส่งผลให้การปรับ ครม.วุ่นวายหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า การปรับ ครม.พูดไปแล้วจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด แต่ยอมรับว่าขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณา เพราะเป็นสิทธิของหัวหน้าพรรคที่จะส่งชื่อไปยังนายกฯ แล้วแต่นายกฯจะเอาตามหรือไม่ ไม่สามารถไปก้าวล่วงหรือวิพากษ์วิจารณ์อะไรไปก่อนได้ เมื่อถามว่าส่วนตัวนายสมศักดิ์จะยังคงนั่งที่เดิมหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ตัวเองจะเสียแนวปฏิบัติ ต้องให้ผู้ใหญ่พิจารณา

“สุริยะ” อุบไต๋ส่ายฮาวายย้ายคุมพลังงาน

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะรักษาการกรรมการบริหารพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า จะเป็นรองหัวหน้าพรรคหรือไม่ต้องรอที่ประชุมใหญ่ ส่วนนายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาทมีโอกาสสูงที่จะได้นั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรค เชื่อว่ามีการคุยกันแล้วในระดับหนึ่ง คงมีการเสนอให้นายอนุชาเป็นเลขาธิการพรรค แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับที่ประชุมใหญ่ การปรับโครงสร้าง กก.บห.ครั้งนี้ ความขัดแย้งจะยุติลงเพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯเข้ามาพูดจาทุกกลุ่มจนมีแนวทางเดียวกันเกิดสมานฉันท์ทั้งหมด ส่วนกระแสข่าวมาว่าตนจะได้ย้ายไปนั่งกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ อย่าเพิ่งสมมติต้องรอให้นายกฯเป็นผู้พิจารณา

“อุตตม” กัดฟันไม่ถอดใจ

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และรักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงมีข่าวจะถูกปรับออกจาก รมว.คลัง ในการปรับ ครม.ที่จะเกิดขึ้นว่า ไม่กังวลทราบกันดีการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ ก็ให้เป็นไปตามนั้น วันนี้เรามีหน้าที่ทำงานก็ทำไป และนายกฯยังไม่มีการส่งสัญญาณ อีกทั้งนายกฯเน้นให้รัฐมนตรีต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วนเพื่อชนะโควิด-19 แล้วเราต้องเดินตามนั้น เมื่อถามว่า หากไม่ได้เป็นรัฐมนตรีต่อจะลาออกจากพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายอุตตมตอบว่า “ผมยังไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นเลย” เมื่อถามย้ำว่า ถอดใจหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า “ไม่ครับใจยังอยู่ที่เดิม ยังไม่ถอดใจ”

วัดใจแล้วแต่นายกฯจะพิจารณา

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะรักษาการเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เรื่องปรับ ครม.อยู่ในดุลพินิจของนายกฯ ไม่สามารถทราบได้ว่านายกฯคิดอย่างไร ทั้งหมดเป็นดุลพินิจท่านเอง นายกฯพูดแล้วว่าท่านจะพิจารณาเอง เมื่อถามว่ามีการประเมินหรือไม่ว่าหากหลุดจากกรรมการบริหารพรรคจะมีผลต่อที่ตำแหน่งรัฐมนตรีในขณะนี้ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับนายกฯ ขอไปทีละวันแล้วกัน ไม่ถอดใจ เพราะถ้าเกิดถอดใจก็ไม่รู้จะเอาใจไปวางไว้ที่ไหน เมื่อถามว่าจะร่วมคณะไปเทียบเชิญ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค พปชร.หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่ายังไม่รู้เพราะเพิ่งรู้ข่าวต้องหารือกัน เมื่อถามย้ำว่า หากมีการเชิญร่วมคณะไปด้วยจะไปหรือไม่ นายสนธิรัตน์ ตอบว่า เดี๋ยวคงต้องคุยกันเพราะตอนนี้ยังไม่ทราบเรื่อง

“ณัฏฐพล” ออกตัวเลือกได้อยากนั่งที่เดิม

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และรักษาการกรรมการบริหารพรรค กล่าวว่า การ ปรับ ครม.ส่วนตัวจะอยู่ที่เดิมหรือไม่อยู่ที่นายกฯ โดยส่วนตัวไม่อยากเปลี่ยน ถ้าเลือกได้อยากอยู่ที่เดิม มีเรื่องเยอะแยะที่ต้องทำในกระทรวงศึกษาธิการ ระบบการศึกษาจำเป็นต้องทำต่อเนื่อง นายกฯมองที่การทำงานของแต่ละคน อยากให้งานของแต่ละกระทรวงมีความต่อเนื่อง คิดว่าเรื่องของพรรค ไม่ได้เกี่ยวกับการปรับ ครม.ขอสื่ออย่าคิดกันไปเอง ทั้งนี้นายกฯไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร ส่งสัญญาณมาแต่ว่าให้แก้ปัญหาโควิด-19 ก่อน

“บี” ไม่รู้ได้ไปต่อ รมว.ดีอีเอสหรือไม่

ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และรักษาการกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การปรับ ครม.ขึ้นอยู่กับนายกฯและนายกฯยังไม่ส่งสัญญาณมา และไม่ทราบว่าเมื่อถึงเวลาปรับ ครม.ตนจะได้อยู่ที่เดิมหรือไม่ ตอนนี้ยังทำงานปกติ เมื่อถามถึง กระแสข่าว ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ฝั่ง กปปส.จะมาสนับสนุนการทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรี นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้เลย ไม่มีใครตั้งเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น และไม่มีทางเป็นไปได้

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกฯและกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขณะนี้การปรับ ครม.นายกฯยังไม่ได้พูดอะไร เมื่อถามว่า ส่วนตัวพร้อมหรือไม่ที่จะเป็นรัฐมนตรี นางนฤมลกล่าวว่า ตอนนี้เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อถามย้ำว่างานทางด้านการศึกษากับเศรษฐกิจถนัดด้านไหน นางนฤมล อึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วไม่ตอบคำถามดังกล่าว

เคาะได้ กก.บห.ชุดใหม่ 27 มิ.ย.

เมื่อเวลา 12.30 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐที่ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรักษาการ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ แถลงผลการประชุมว่า จะมีการประชุมใหญ่ของพรรคในวันที่ 27 มิ.ย. เวลา 13.00-17.00 น.ที่ศูนย์ประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่ประชุมได้แต่งตั้งคณะกรรมการเตรียมการจัดการประชุมขึ้นมา โดยมีนายไพบูลย์ นิติตะวัน รักษาการรองหัวหน้าพรรคเป็นประธาน เพื่อยกร่างแก้ไขข้อ บังคับที่จะเสนอในวันประชุมใหญ่ดังกล่าว ทั้งการกำหนดองค์ประชุม และวางโครงสร้างว่าจะมีตำแหน่งใดในพรรคบ้าง ส่วนแคนดิเดตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐคนใหม่ มีเพียงรายชื่อเดียวคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ โดยในวันที่ 23 มิ.ย. สมาชิกพรรคพลังประชารัฐจะไปเชิญ พล.อ.ประวิตรที่ทำเนียบรัฐบาล ให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ส่วนเลขาธิการพรรคและ ผอ.พรรคเป็นไปตามที่สื่อมวลชนได้เสนอก่อนหน้านี้คือนายอนุชา นาคาศัย เป็นเลขาธิการพรรค และนายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นผู้อำนวยการพรรค ส่วนการปรับโครงสร้างของพรรคหลังจากนี้จะมีนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ อยู่ในตำแหน่งใดหรือไม่ยังไม่ทราบ

“ไพบูลย์” ชื่นชมสปิริต รรท.หน.–เลขาฯ

นายไพบูลย์ นิติตะวัน รักษาการรองหัวหน้าพรรค แถลงว่า ขอชื่นชมสปิริตนายอุตตมและนายสนธิรัตน์ ที่จัดการประชุมในวันนี้ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสนับสนุนให้มีการประชุมใหญ่สามัญของพรรคอย่างเต็มที่ ทั้ง 2 คนนี้จะอยู่ใน กก.บห.ชุดใหม่หรือไม่ตนไม่ทราบ ทั้งนี้จะประชุมจัดทำร่างแก้ไขข้อบังคับพรรค ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการทำหน้าที่พรรค และจะเสนอที่ประชุมใหญ่พิจารณาต่อไป

เพิ่มรอง หน.ทุกภาคแชร์บทบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะทำงานศึกษาเตรียมจัดประชุมใหญ่พรรคและแก้ไขข้อบังคับพรรค ที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธานจะพิจารณาแก้ไขข้อบังคับพรรค กำหนดเพิ่มตำแหน่งสำคัญของพรรคจากเดิมที่ไม่เคยกำหนดไว้ อาทิ รองหัวหน้า พรรค ผอ.พรรค เป็นต้น โดย ผอ.พรรคมีชื่อนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง จะมานั่งจะเพิ่มบทบาทหน้าที่ให้สถานะเทียบเท่ารองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบดูแล ส.ส.ด้วย ไม่ใช่ทำงานธุรการ ส่วนนายอนุชา นาคา–ศัย ส.ส.ชัยนาท ว่าที่เลขาธิการพรรค มีบทบาทดูแลงานในพรรค ส่วนการดีลเรื่องสำคัญกับพรรคร่วมฯ เป็นหน้าที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และจะเพิ่มรองหัวหน้าพรรคเป็น 8-10 คนให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะให้หัวหน้าพรรคที่ผ่านการเลือกจากที่ประชุมใหญ่ เป็นคนเลือกรองหัวหน้าหรือรองหัวหน้าต้องผ่านการเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่พรรคจึงมอบคณะทำงานชุดนายไพบูลย์ไปหาข้อสรุป คาดว่าวันที่ 23 มิ.ย. ทุกอย่างจะชัดเจน

ซัดกันนัวปมย้ายที่ทำการพรรคใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในที่ประชุม กก.บห.ชุดรักษาการได้หารือแก้ไขข้อบังคับพรรคเปิดทางย้ายที่ทำการพรรคจากอาคารปานศรี ไปยังอาคารรัชดาวัน ตรงข้ามศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ปัจจุบันพรรคใช้เป็นศูนย์ประชุม ส.ส.พรรค ในที่ประชุมแต่ละคนค่อนข้างระมัดระวังการพูด มีช่วงหนึ่งค่อนข้างตึงเครียดเมื่อเกิดวิวาทะระหว่างแกนนำคนสำคัญของพรรคเรื่องการย้ายที่ทำการพรรค เมื่อแกนนำพรรคคนหนึ่งระบุต้องดูข้อกฎหมาย และมีบางคนในที่ประชุม อยากให้รีบย้ายที่ทำการ จะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่าอาคารปานศรีเดือนละเป็นหลักล้านบาท แต่ยังติด ปัญหาว่าที่ทำการพรรคแห่งใหม่ คืออาคารรัชดาวันยังตกแต่งไม่เสร็จ แกนนำบางคนสงสัยว่าพรรคต้องรับผิดชอบค่าเช่าอาคารดังกล่าวด้วยหรือไม่ ทำให้แกนนำคนหนึ่งตอบโต้กลางที่ประชุมว่า “ถ้าไม่พอใจ หรือมีที่ใหม่ก็ไปหาที่ใหม่”

“บิ๊กป้อม” ทำไก๋ไม่รู้เขาจะมาเชิญรึเปล่า

เมื่อเวลา 12.50 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดี เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาลและ ส.ส.นครราชสีมาพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุเตรียมจะมาเทียบเชิญให้ พล.อ.ประวิตร เป็น หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขณะนี้เห็นข่าวหรือยังว่า “ยังไม่เห็นและยังไม่อยากพูด”

ต่อมาเวลา 13.25 น. พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่ายังไม่ทราบเรื่องและไม่มีใครบอกว่าจะมีคนมาเทียบเชิญ เพราะตนไปปฏิบัติภารกิจที่ต่างจังหวัดมา และยังไม่มีใครแจ้งผลประชุมพรรคเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.เข้ามาให้ตนทราบ เมื่อถามว่า ถ้าหากมีคนมาเทียบเชิญให้เป็นหัวหน้าพรรคจะรับเลยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าเขาจะ เชิญจริงหรือเปล่ายังไม่รู้เลย

“บิ๊กตู่” เปรยถ้าไม่เปลี่ยนแปลงก็อยู่ไม่ได้

ส่วนความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล นายกฯเป็นประธานพิธีลงนามสัญญาร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จํากัด โดยนายกฯกล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ เราต้องเป็น new normal คิดใหม่ ชีวิตที่เป็นปกติใหม่ เราต้องมีสิ่งใหม่ๆเกิดขึ้นคือความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน ไม่มีอะไรทำได้โดยคนคนเดียวหรือหน่วยงานเดียว จะเปลี่ยนแปลงประเทศ ไม่มีอะไรจะทำได้นอกจากการคิดใหม่ ทำใหม่ บูรณาการสิ่งใหม่ๆ สิ่งสำคัญคือการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จะทำได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนว่าจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงก็ไม่เกิดประโยชน์ ถ้าโลกปรับหรือเปลี่ยน แต่เราไม่ปรับหรือเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ประเทศไทยก็อยู่ไม่ได้ คนไทยอยู่ไม่ได้ ต่อให้ใครก็ตามเข้ามาบริหารแผ่นดินก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน

ฝาก ส.ส. ส.ว.แจงยุทธศาสตร์ชาติ

ต่อมาเวลา 13.30 น.ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดองหรือ ป.ย.ป. ครั้งที่ 1/2563 โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวก่อนการประชุมว่า การประชุมวันนี้สำคัญมาก เพราะมีการ แต่งตั้งคณะกรรมการชุดต่างๆในครั้งที่ผ่านมา ต้องปรับให้เข้ากับรูปแบบและกฎหมายปัจจุบันให้เหมาะสมกับสถานการณ์ สิ่งที่มุ่งหวังคือทำอย่างไรให้ยุทธศาสตร์ชาติเดินหน้าต่อไปได้ตามหลักการที่วางไว้ ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจว่าอะไรคือยุทธศาสตร์ชาติ และประเทศชาติจะเดินหน้าไปด้วยดี ขึ้นอยู่กับ 6 กลุ่มงานยุทธศาสตร์

ตีกันไม่จำเป็นต้องรื้อใหม่ทั้งหมด

“วันนี้ไม่จำเป็นต้องรื้อทั้งหมด เพียงแต่แผนงานและรูปแบบปฏิบัติต้องทำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆของโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องอธิบายให้เข้าใจ โดยเฉพาะบรรดา ส.ส. และ ส.ว. ต่างๆ ที่ต้องเข้าใจในสิ่งเหล่านี้ เพราะเป็นหลักการและหลักเกณฑ์ของประเทศ ที่จะเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” นายกฯกล่าว

ดึงมือพี่ 2 ป.ปิดห้องถกลับครึ่ง ชม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ ป.ย.ป.ก่อนที่ พล.อ.ประวิตรเตรียมเดินออกจากตึกภักดีบดินทร์ ปรากฏว่านายกฯได้เข้ามาดึงมือชักชวน พล.อ.ประวิตรให้อยู่คุยกันต่อ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยร่วมพูดคุยอยู่ด้วย จากนั้นทั้ง 3 คนได้พากันเข้าไปนั่งคุยที่ห้องรับรองเป็นการส่วนตัวนานครึ่งชั่วโมง คาดว่าเป็นการหารือเรื่องการปรับ ครม.และการที่พรรคพลังประชารัฐจะส่งหนังสือเทียบเชิญไปนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคอย่างเป็นทางการชิ่งเทียบเชิญ “พี่ใหญ่” เรื่องของพรรค

จากนั้นเวลา 15.18 น. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมเทียบเชิญ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธาน คณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรค พปชร. เพื่อเสนอชื่อ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ในวันที่ 23 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเพียงสั้นๆว่า เป็นเรื่องของพรรค เมื่อถามถึงการปรับ ครม. พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงการเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการทำงานของรัฐบาลแบบ New Normal พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เดี๋ยวจะพูดวันหลัง”

ยัน ป.ย.ป.ไม่มีคุยเรื่องนิรโทษกรรม

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อน ป.ย.ป.ว่า ในที่ประชุมไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการนิรโทษกรรม ส่วนเรื่องการปรองดองนั้นเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการ อยู่แล้ว เมื่อถามถึงขั้นตอนการขับเคลื่อนงานว่าจะเป็นแนวรูปแบบใด พล.อ.ประวิตรปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว

นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ในฐานะ ผอ.สำนักงาน ป.ย.ป. แถลงว่า ที่ประชุมมีมติทบทวนยกเลิกคณะกรรมการทำงานเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการปรองดอง 14 ชุด และมีมติตั้งคณะกรรมการ ชุดใหม่ขึ้นมา 1 ชุด คือคณะกรรมการดำเนินการปฏิรูป กฎหมายในระยะเร่งด่วนเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ที่ต้องปรับปรุงแก้ไขหรือตามกฎหมายในระยะเร่งด่วน

“อนุทิน” เผยยังไม่ได้รับซิกปรับ ครม.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้สัมภาษณ์ ถึงการประชุมพรรคจะหารือการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ว่า พรรคเราประชุม ส.ส.และสมาชิก ทุกอาทิตย์อยู่แล้ว เมื่อถามว่าจะมีการปรับตำแหน่งรัฐมนตรีในส่วนของโควตาพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า การปรับ ครม.ตนยังไม่ได้รับสัญญาณอะไรจากนายกรัฐมนตรี จึงยังไม่คิดถึงเรื่องการ ปรับตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรค เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรค การเมืองอื่นได้เริ่มส่งชื่อรัฐมนตรีที่ถูกปรับใหม่มาให้ นายกฯแล้ว นายอนุทินหัวเราะก่อนตอบว่า “โนพรอมแพลม” จากนั้นจึงเดินขึ้นตึกเพื่อเข้าประชุมทันที

“พีระพันธุ์” โต้กินข้าว ส.ส.ไม่มีการเมือง

ที่รัฐสภา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาหลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไข เพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสภาฯ กล่าวถึงกรณีนางศิริวรรณปราศจากศัตรู ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นำทีมอดีต ส.ส.ภาคเหนือ พรรคประชาธิปัตย์ไปร่วม ทานอาหารเที่ยงที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ว่า เป็นการทานข้าวกันเป็นปกติเพราะรู้จักกัน ไม่ได้คุย เรื่องการเมืองหรือการปรับ ครม. พูดคุยเรื่องทั่วไป ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องการปรับ ครม. ส่วนการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญคาดว่าตั้งแต่สัปดาห์หน้าจะเปิดให้ กลุ่มต่างๆทยอยมาแสดงความเห็น หลังได้มอบหมายให้คณะอนุ กมธ.ประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่มีนายวัฒนา เมืองสุข เป็นประธานไปดำเนินการ

“จุติ” ใจนิ่งถึงถูกปรับออกไม่ย้ายพรรค

นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกระแสระบุว่า เป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่อาจถูกปรับออกว่า ตนเป็นคน ของประชาชนและพรรคประชาธิปัตย์ ทำงานเต็มที่ตามที่ได้รับมอบหมาย เรื่องปรับ ครม.ต้องแล้วแต่ผู้ใหญ่ แต่วันนี้ทำงานที่พรรคมอบหมายให้ทำเรื่องการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เต็มที่ ปีนี้ตั้งใจจะสร้างบ้านให้คนจนเช่า 20,000 หลัง 5 ปี 100,000 หลัง ตามนโยบายรัฐบาล ไม่รู้สึกกังวลการเมืองเป็นแบบนี้ตลอด อยู่มานานรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ทำใจให้นิ่ง ทำงานให้เต็มที่ เมื่อถามว่า ถ้าถูกปรับออก แล้วเท่ากับจะไม่มีตำแหนงใดๆจะยังอยู่กับพรรค ประชาธิปัตย์หรือไม่ นายจุติกล่าวว่า ชีวิตคงไม่ได้ สำคัญว่าอยู่ที่ตรงไหน เมื่อตนได้รับโอกาสจะทำโอกาสนี้ให้ดีที่สุดและตั้งใจทำให้พี่น้องประชาชน ยืนยันยังทำงานอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน เพราะพรรคให้โอกาสตนมากและตั้งใจจะทำงานตอบแทนพี่น้องประชาชนเต็มที่

“กัลยา” ไม่หวั่นส่อหลุดโค้งพ้น ครม.

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีข่าวว่า ชื่ออยู่ในข่ายที่จะถูกปรับ ครม.ในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ข่าวก็เป็นข่าวส่วนตัวไม่ได้วิตกกังวล และไม่รู้สึกหวั่นไหวอะไรกับข่าวดังกล่าว เพราะยังทำงานต่อด้วยความตั้งใจ ส่วนการจะปรับหรือไม่ อย่างไร เป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรค แต่ตนทำงานทุกวัน เช่นวันนี้ลงพื้นที่ จ.อุบลฯและศรีสะเกษ ในส่วนงานที่รับคือวิทยาลัยเกษตรกรรม 47 แห่งทั่วประเทศ เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ให้เป็นเกษตรกรยุคใหม่ เพื่อเป็นอนาคตของชาติที่ดี มีศักยภาพโดยมีการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีองค์ความรู้ใหม่ๆสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ที่หลายฝ่ายระบุว่าไม่ค่อยมีผลงานก็ไม่จริงเพราะมีผลงานจับต้องได้ เช่น การสอนโค้ดดิ้งให้คิดเป็นระบบ หรืองานบริหารจัดการน้ำของชุมชนตามแนวทางพระราชดำริ เพราะปัญหาขาดน้ำเป็นต้นเหตุหลักของความยากจน กำลังดำเนินการผ่านวิทยาลัยเกษตรกรรมทั่วประเทศ

“กนก” โบ้ยสื่อจับวาง “ติ๊ก” ยอมหลีกทาง

นายกนก วงศ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่ามีชื่อเป็นแคนดิเดตในการปรับ ครม.ของพรรคประชาธิปัตย์ โดยจะไปเสียบแทนคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ ว่า ไม่เป็นความจริง ขณะนี้ผู้บริหารพรรคยังไม่ส่งสัญญาณการปรับ ครม.ที่มีชื่อตนไปปรากฏว่าจะเป็น รมช.ศึกษาธิการ อาจเกิด จากการวิเคราะห์ของนักข่าวที่เห็นว่าตนมีผลงานด้านนี้

นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวมีชื่อเป็นแคนดิเดตจะเป็น รมว.พม.แทนนายจุติ ไกรฤกษ์ ว่า ไม่มีอะไรเลย ตอนนี้ยังไม่พร้อมเป็น รมต.ต้องดูมติพรรค นายจุติเป็น รมต.ดีที่สุดแล้ว เพราะเขาเคยเป็นเลขาธิการพรรคมาก่อน ตอนพรรคไม่มีอะไรเขาทำงานให้อย่างทุ่มเท เขาเหนื่อย เรื่องแบบนี้ต้องให้เกียรติ รู้บุญคุณคนทำงาน

“อัศวิน” อ่อยเลี้ยง 10 ผู้สมัคร ส.ส.เหนือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำแหน่ง รมว.พม.เดิมคุยกันในกลุ่มนายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส. และอดีต ส.ส.พรรคปีก กปปส.เดิม หากล้างไพ่ใหม่จะเสนอชื่อนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู หรือแม่เลี้ยงติ๊ก ให้สลับขึ้นมาเป็น รมว.พม.แทนอย่างน้อยก็ยังมีรัฐมนตรีในกลุ่มนี้ ไม่ใช่ของกลุ่มอื่น ขณะที่นายอัศวิน วิภูศิริ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตรองหัวหน้าภาคกลางเองต้องการจะขึ้นเป็นรัฐมนตรี จึงเสนอผู้บริหารจะดูแลอดีต ส.ส.เหนือราว 10 คน แต่ต้องให้อำนาจบริหารคัดเลือกตัวผู้สมัคร ส.ส.เอง ไม่ใช่ให้ดูแลผู้สมัครแต่ไม่มีสิทธิคัดเลือกคน เพราะปัจจุบันภาคเหนือมีนายนราพัฒน์ แก้วทอง เป็นรองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ จึงต้องหารือภายในกันก่อน เมื่อแม่เลี้ยงติ๊กทราบเรื่องนี้ จึงขอหลีกทางให้ และให้ผู้บริหารพรรคเป็นผู้พิจารณาถึงความเหมาะสม

นายกฯขีดเส้นพรรคร่วมส่งชื่อ 7–9 ก.ค.

สำหรับความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังพรรคพลังประชารัฐขยับประชุมใหญ่สามัญพรรคเป็นวันที่ 27 มิ.ย.จากวันที่ 3 ก.ค.เพื่อปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคใหม่ และการลาออกของ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน จากหัวหน้าและสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และเตรียมนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ กรรมการบริหาร มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ในโควตาพรรคแทน ม.ร.ว.จัตุมงคล ทำการปรับ ครม.ขยับเร็วขึ้นทันที ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ได้แจ้งไปยังพรรคร่วมรัฐบาลแล้วจะมีการปรับ ครม.โดยขีดเส้นให้แต่ละพรรคส่งรายชื่อภายในวันที่ 7-9 ก.ค.เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติและนำสู่ขั้นตอนการนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป

สะพัดทาบ “ปรีดี” หน.ทีม ศก.ชุดใหม่

ขณะที่รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจถูกคาดว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหลายคน ที่มีรายงานข่าวว่านายกฯได้ทาบทามเอาไว้หลายคน ต้องจับตามองไปที่คณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อาทิ นายปรีดี ดาวฉาย ประธานกรรมการสมาคมธนาคารไทย กก.ผจก.ใหญ่ธนาคารกสิกรไทย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ อดีตผู้บริหารพีทีที โกลบอล เคมิคอลนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีต รมช.คมนาคม อดีตผู้บริหาร ปตท. นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย อดีตประธานบอร์ด ปตท. และอดีตผู้บริหารธนาคาร เป็นต้น

กต.จ่อเปลี่ยนหัว “ดอน” เปรยอยากพัก

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า รมต.ต่างๆที่อาจถูกปรับเปลี่ยน ประกอบด้วยรองนายกฯ รมว.คลัง รมว.แรงงาน รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รมต.ประจำสำนักนายกฯ รมช.เกษตรฯ รมช.ศึกษาธิการ รมว.วัฒนธรรม รมช.กลาโหมรมว.ต่างประเทศ โดย รมว.ต่างประเทศที่มีข่าวจะโดนปรับก่อนหน้านี้ แต่นายดอน ปรมัตถ์วินัย ยืนยันไม่คิดลาออกตามข่าว แต่ล่าสุดนายดอนได้พูดคุยกับคนใกล้ชิดว่าต้องการจะพัก หลังทำงานมาตั้งแต่ยุคคสช. มีอายุมากแล้ว ก่อนตั้ง ครม.ประยุทธ์ 2/1 นายดอนมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อ ส.ว.แต่เนื่องจากการตั้งครม.ครั้งแรก นายกฯไม่สามารถหาคนมาดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศได้ จึงประสานนายดอนให้ช่วยทำงานต่อ กระทั่งจะมีการปรับ ครม.ครั้งนี้จึงจะถือโอกาสพัก โดยนายกฯรับรู้ความต้องการของนายดอนด้วย

สลับกระทรวงแลกโควตาพรรคร่วมฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ยังอาจมีการสลับสับเปลี่ยนโควตากระทรวงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งอยู่ในระหว่างการหารือ โดยยึดหลักโควตา รมต.แต่ละพรรคจากสัดส่วน ส.ส. เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลได้ตกลงจะยินยอมให้ พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียวในการปรับ ครม.ครั้งนี้ จึงเป็นไปได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยอาจถูกปรับโควตากระทรวงใหม่ด้วย

เล็ง “เอนก” นั่งคุม อว. “เฮ้ง” คั่วแรงงาน

ขณะที่พรรครวมพลังประชาชาติไทยที่ส่งชื่อนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ มานั่งแทน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน นั้น อาจสลับโยกไปนั่งกระทรวงการอุดมศึกษาธิการฯ (อว.) ขณะที่เก้าอี้ รมว.แรงงาน มีชื่อนายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี และประธานส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และประธานที่คั่วมาตั้งแต่ต้นมาเป็น รมว.แรงงานแทน โดยจะไม่มีตำแหน่งในพรรคแล้ว

“สุริยะ” รวมเสียง ส.ส.สู้ชิงคุมพลังงาน

ส่วนของพรรคพลังประชารัฐเอง มีความเป็นไปได้ที่ 4 กุมารจะไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หัวหน้าพรรคจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณแน่นอน เก้าอี้เลขาธิการพรรค ตกเป็นของนายอนุชา นาคาศัย โฟกัสเก้าอี้ รมว.พลังงานของนายสนธิรัตน์ ถูกมองอาจเปลี่ยนมือมาเป็นของกลุ่มสามมิตร ที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ตีตราจองขอนั่งกระทรวงนี้ตั้งแต่แรก ขณะที่นายสนธิรัตน์ยังแสดงความมั่นใจได้พูดคุยกับ ส.ส.ในทีมว่ามั่นใจจะได้นั่งต่อ รมว.พลังงาน เนื่องจากผลงานเป็นที่น่าพอใจของนายกฯ โดยเฉพาะการแก้ไขราคาปาล์ม ขณะที่นายสุริยะยังคงเดินเกมสู้ต่อโดยพยายามรวบรวมดึงเสียง ส.ส.ในพรรคมาเพื่อสนับสนุนเพิ่มเติม

พรรคเล็กขอด้วยส่งชื่อ “เต้”ประกวด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนพรรคเล็กร่วมรัฐบาล พรรคเล็ก 9 พรรคจาก 11 พรรคได้ส่งชื่อคนที่จะเป็นรัฐมนตรีเข้ามาด้วยเช่นกัน โดยได้ส่งชื่อนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์มาเป็นรัฐมนตรี และกลุ่มของนายชัชวาลย์ คงอุดมหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท จับมือกับพรรคทวงคืนผืนป่า ที่มีนายดำรงค์ พิเดช เป็นหัวหน้าพรรค ก็ส่งเข้าประกวดเช่นกัน

“ตู่” บ่นดราม่าไม่อยากปรับ ครม.ตอนนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่กระแสข่าวการปรับ ครม.บนหน้าสื่อเต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวการปรับ ครม.ช่วงชิงเก้าอี้ รมต. โดยต่างระบุว่าจะมีการโล๊ะทีมงานของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯพ้นจาก ครม. มีรายงานข่าวอีกกระแสหนึ่งระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้เปรยกับคนใกล้ชิดว่า “ดราม่า” เช่นเดียวกันนายสมคิดได้พูดคุยกับคนใกล้ชิดว่า “กรรมของผมจะออกก็ไม่ได้ อยู่ก็ทำอะไรไม่ได้ นายกฯเองยังไม่อยากปรับเวลานี้ แต่ทางพรรคพลังประชารัฐและรวมพลังประชาชาติไทยอยากให้ปรับ ครม.แล้ว”

พท.เอาบ้างจ่อล้างบ้านไล่งูเห่า

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยกลุ่มหนึ่งรู้สึกไม่สบายใจกับปัญหาความขัดแย้งภายในพรรค ดังนั้นเตรียมใช้โอกาสในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี เสนอให้เปลี่ยนแปลง กก.บห.ชุดใหม่ เน้นให้คนที่มีแนวทางชัดเจนว่าต้องการอยู่กับเพื่อไทยต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คาดว่าจะประชุมในเดือน ก.ค.หลังสภาฯพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 64 เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่มีสัญญาณให้เปลี่ยนหัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการพรรค แต่จะเปลี่ยนแปลงในส่วนรองหัวหน้าพรรคบางคนและรองเลขาธิการพรรคบางคนที่อาจจะอยากพักบ้างเท่านั้น โดยสัดส่วนกรรมการบริหารพรรคจะจำนวนไม่เกิน 29 คนเช่นเดิม

กกต.จัดคูหาพิเศษรับกาบัตร ลต.ซ่อม

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลเกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นำเจ้าหน้าที่ตรวจเยี่ยมส่งมอบอุปกรณ์เลือกตั้ง ส.ส.ลำปาง เขต 4 ในวันที่ 20 มิ.ย. โดยนายอิทธิพร เปิดเผยว่าการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปางเขต 4 มีสถานการณ์โควิด-19 ต้องปลอดภัยมากที่สุดขอให้ผู้ใช้สิทธิใส่หน้ากาก วัดอุณหภูมิก่อนเข้าคูหา หากเกิน 37.5 องศาเซลเซียสจะให้เข้าใช้สิทธิคูหาพิเศษ

“โรม” รับกังวลหนักถูกปองร้าย

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสแฮชแท็ก SAVE โรม ในโลกโซเชียลว่า ขอขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง ในฐานะผู้แทนราษฎรหากมาอยู่ในตำแหน่งแล้วไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่จะมีประโยชน์อะไร หากทำหน้าที่แล้วทำให้ได้รับอันตรายไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน ยืนยันยังคงใช้ชีวิตตามปกติ แต่ยอมรับว่ากังวลกว่าที่ผ่านมาแม้ว่าจะเคยถูกปองร้ายมาหลายครั้ง ดูเหมือนครั้งนี้จะหนักเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าหวังจะเอาถึงชีวิตเราหรือไม่ สิ่งที่เกิดขึ้นมีคนอีกนับล้านที่เห็นเหมือนกัน เสรีภาพคิดพูดแสดงออกเป็นสิ่งสำคัญในสังคมประชาธิปไตย ประชาชนมีสิทธิคิดตั้งคำถามตามหาความจริง

นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” นศ.รัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ แกนนำสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) เปิดเผยว่ามีสัญญาณเตือนว่าจะเป็น 1 ใน 4 ที่ถูกจัดการ คือตน นายรังสิมันต์ โรม นายอานนท์ นำภา นายปิยรัตน์ จงเทพ เพราะเคลื่อนไหวเชิงรุกโดยเฉพาะเรียกร้องให้รัฐบาลติดตามการอุ้มนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ และวิจารณ์ว่าใครคือคนสั่ง ช่วงนี้ไม่ทราบทหารหรือตำรวจตามสะกดรอยทุกฝีก้าว เจ้าหน้าที่ที่รู้จักกันเตือนว่าให้เพลาการเคลื่อนไหวบางเรื่อง อย่าไปแตะต้องเรื่องที่ไม่ควร มีคนไม่พอใจจ้องจะทำร้ายถึงชีวิต

“บิ๊กแป๊ะ” เตือนอย่าเป็นเหยื่อกลุ่มหมิ่น

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กล่าวถึงความเคลื่อน ไหวของกลุ่มหมิ่นสถาบันว่า ตร.จะใช้กฎหมายปกติไปก่อน อาทิ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หรือประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 แต่ความผิดในคดีมาตรา 112 ถ้าใครที่มีพยานหลักฐานมัดแน่นชัดเจนจริงๆ ต้องเข้าสู่คณะกรรมการอีกครั้งหนึ่ง ส่วนผู้ที่กระทำผิดจากนอกประเทศฝ่ายความมั่นคงมีมาตรการดูแลอยู่แล้ว รัฐบาลอยากสร้างความเข้าใจความรับรู้มากกว่า อย่าตกเป็นเครื่องมือ มันล่อแหลม อย่าตกเป็นเหยื่อ ตำรวจไม่อยากดำเนินคดีกับใครโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ไม่อยากให้โดนดำเนินคดี เอาเวลาไปศึกษาหาความรู้ดีกว่า กฎหมายพอเริ่มนับ 1 แล้วมันกลับมายาก ต้องเดินหน้าต่อไป ขอให้กลับไปดูแกนนำต่างๆว่า หยุดเคลื่อนไหวเพราะอะไร

ผู้ตรวจการฯไม่มีอำนาจส่งเชือด 90 ส.ว.

นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินได้พิจารณากรณี นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ โฆษกพรรคเสรีรวมไทย และนายทรรศนัย ทีน้ำคำ นักกฎหมายและทนายความ ยื่นร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้พิจารณาเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยเกี่ยวกับสมาชิกภาพของ ส.ว.จำนวน 90 คน ซึ่งเคยเป็น สนช.ว่ามีลักษณะต้องห้ามเป็น ส.ว. ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 108 ข. (1) (3) และ (9) อันมีผลทำให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา 111 (4) หรือไม่ โดยผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยว่า กรณีปัญหาตามคำร้องเกี่ยวกับสมาชิกภาพของ ส.ว.สิ้นสุดลง มิใช่เป็นการร้องเรียนเกี่ยวกับบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะพิจารณา เป็นอำนาจของประธานวุฒิสภาและคณะ กกต.ในการส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐธรรมนูญกำหนด เรื่องนี้จึงไม่อยู่ ในหน้าที่และอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดิน

Let's block ads! (Why?)


June 20, 2020 at 05:23AM
https://ift.tt/3165Ir8

หาทีมเศรษฐกิจใหม่ 3 ป.ถกลับ โผ ครม.พล่าน - ไทยรัฐ
https://ift.tt/2zhqZ5D
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update

Bagikan Berita Ini

0 Response to "หาทีมเศรษฐกิจใหม่ 3 ป.ถกลับ โผ ครม.พล่าน - ไทยรัฐ"

Post a Comment

Powered by Blogger.