Search

สงครามวัฒนธรรมเพื่อกำจัดสัญลักษณ์ของการเหยียดผิวและค้าทาสในอดีต - VOA Thai

roe.prelol.com

หลังการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ที่นครมินนีแอโปลิสซึ่งตามมาด้วยการประท้วงต่อต้านการเหยียดสีผิวทั่วประเทศ ตอนนี้อเมริกากำลังเผชิญกับการเรียกร้องให้ยกเลิกสัญลักษณ์ของการเหยียดผิวและการใช้แรงงานทาสในอดีต ซึ่งเป็นสาเหตุนำไปสู่การทำสงครามในสหรัฐหรือ Civil War ระหว่างรัฐทางเหนือกับรัฐทางใต้ 13 รัฐและลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ของกลุ่มรัฐดังกล่าวที่เรียกกันว่า Confederacy เมื่อราว 160 ปีที่แล้ว โดยสัญลักษณ์ของการครอบงำจากคนผิวขาวที่กำลังตกเป็นเป้าถูกรื้อถอนหรือถูกยกเลิกในขณะนี้ก็มีตั้งแต่รูปปั้นของ Jefferson Davis อดีตประธานาธิบดีของกลุ่มรัฐฝ่ายใต้และรูปปั้นของนายพล Robert E. Lee ผู้บัญชาการกองทัพฝ่ายใต้ จนถึงกรณีที่ NASCAR สมาคมรถแข่งอาชีพของสหรัฐซึ่งมีพื้นฐานผูกพันอยู่กับรัฐทางใต้มายาวนานได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะเลิกใช้ธงสัญลักษณ์ของรัฐฝ่ายใต้หรือที่เรียกกันว่า confederate flag ที่มีพื้นสีแดงและมีรูปกากบาทสีน้ำเงินซึ่งประกอบด้วยดาว 13 ดวงอันเป็นตัวแทนของกลุ่มรัฐทางใต้ในยุคค้าทาส รวมทั้งการที่ HBO ได้ประกาศถอดภาพยนตร์คลาสสิคเรื่อง Gone With the Wind ซึ่งเคยได้รับรางวัลออสก้าเมื่อปี 2482 ออกจากรายการโดยให้เหตุผลว่าภาพยนตร์เก่าเรื่องนี้สื่อถึงเรื่องการแบ่งแยกผิวและชนชั้นในอเมริกา เป็นต้น

นอกจากนั้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมายังมีการลงมติในวุฒิสภาสหรัฐที่จะให้กระทรวงกลาโหมเปลี่ยนชื่อและสัญลักษณ์ต่างๆ ของการแบ่งแยกและเหยียดผิวโดยรัฐฝ่ายใต้ในอดีตออกจากที่ตั้งทางทหารของสหรัฐ เช่นการเสนอให้เปลี่ยนชื่อค่ายทหาร Fort Bragg, Fort Hood และ Fort Lee ซึ่งเชื่อมโยงกับบุคคลหรือเหตุการณ์แบ่งแยกผิวในอดีตเป็นต้น อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศว่าตนจะใช้สิทธิยับยั้งร่างกฏหมายฉบับนี้หากส่งมาถึงตน และโฆษกทำเนียบขาวก็ให้เหตุผลจากข้อความทวีตของประธานาธิบดีทรัมป์ว่าชื่อและสัญลักษณ์ต่างๆในค่ายทหารเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของมรดกตกทอดอันยิ่งใหญ่ของสหรัฐในเรื่องชัยชนะและเสรีภาพ

ในขณะที่ผู้นำของคนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันกล่าวตำหนิว่ารูปปั้นรวมทั้งสัญลักษณ์ต่างๆ ของรัฐฝ่ายใต้ในอดีตซึ่งยังคงเห็นได้ในปัจจุบันเป็นเครื่องหมายหรือตัวแทนของการแบ่งแยกในสังคมรวมทั้งการมีฐานะเหนือกว่าของคนผิวขาวนั้น ตัวแทนของสมาคมลูกหลานทหารผ่านศึกของรัฐฝ่ายใต้ก็โต้ว่ากระแสต่อต้านสัญลักษณ์ของกลุ่มรัฐฝ่ายใต้หรือ Confederacy นี้เป็นความพยายามเพื่อทำลายสายใยของหลักการและความถูกต้องทางศีลธรรมในสังคมโดยเปรียบเทียบความพยายามโจมตีและทำลายสัญลักษณ์ดังกล่าวว่าเหมือนกับสิ่งที่พวกก่อจลาจลและผู้เข้าปล้นขโมยข้าวของได้กระทำลงไป

อาจารย์เจมส์ เดวิสัน ฮันเตอร์ ผู้สอนวิชาสังคมวิทยาที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐเวอร์จิเนียกล่าวว่าการถกเถียงเรื่องสัญลักษณ์ของกลุ่มรัฐฝ่ายใต้ในอดีตที่ยังหลงเหลือให้เห็นได้ในปัจจุบันนี้เป็นตัวแทนของความขัดแย้งเรื่องแนวคิดและค่านิยมของสาธารณชนอเมริกัน และว่าถึงแม้คำประกาศอิสระภาพของสหรัฐเมื่อปีค.ศ. 1776 จะระบุว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกันก็ตามแต่ประวัติศาสตร์ของสหรัฐได้แสดงว่าความเสมอภาคดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นกับคนหลายกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนอเมริกันผิวดำ

และขณะที่ผลการสำรวจความเห็นของมหาวิทยาลัย Monmouth แสดงว่า 76% ของคนอเมริกันในปัจจุบันเชื่อว่าการแบ่งแยกปฏิบัติต่อคนต่างผิวเป็นปัญหาใหญ่นั้น อาจารย์แบรนด์ดอน เบิร์ด ผู้สอนวิชาประวัติศาสตร์คนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่มหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลท์ตั้งข้อสังเกตว่าประธานาธิบดีทรัมป์มองเรื่องนี้ว่าเป็นประเด็นหาเสียงที่จะเป็นประโยชน์ต่อตนในการเลือกตั้งและกำลังใช้กลยุทธ์ที่เรียกกันว่า Souther Strategy เพื่อระดมความสนับสนุนทางการเมืองจากกลุ่มคนผิวขาวในรัฐทางใต้

อย่างไรก็ตามอาจารย์เบิร์ดกล่าวว่ากระแสการคัดค้านของคนอเมริกันเรื่องการปฏิบัติต่อคนต่างผิวอย่างไม่เป็นธรรมซึ่งเกิดขึ้นทั่วไปอย่างกว้างขวางในขณะนี้อาจไม่ช่วยให้ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เปรียบจากยุทธศาสตร์การเมืองเรื่องนี้เท่าใดนัก แต่การเลือกข้างหรือการกำหนดจุดยืนของประธานาธิบดีทรัมป์ในสงครามด้านวัฒนธรรมมีโอกาสที่จะทำให้เกิดความแตกแยกและการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในบรรดาผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งของอเมริกาได้

Let's block ads! (Why?)


June 15, 2020 at 10:37AM
https://ift.tt/30JmpZE

สงครามวัฒนธรรมเพื่อกำจัดสัญลักษณ์ของการเหยียดผิวและค้าทาสในอดีต - VOA Thai
https://ift.tt/3d8X1Q9
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update

Bagikan Berita Ini

0 Response to "สงครามวัฒนธรรมเพื่อกำจัดสัญลักษณ์ของการเหยียดผิวและค้าทาสในอดีต - VOA Thai"

Post a Comment

Powered by Blogger.