เชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก รวม 211 ประเทศ ภายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 2.1 แสนราย มาอยู่ที่ 14,703,293 ราย รักษาหายแล้ว 8,290,431 ราย เสียชีวิต 609,887 ศพ จากการรายงานของศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เมื่อเวลา 11.34 น. วันที่ 21 ก.ค.
- สหรัฐฯ ยังคงเผชิญกับการแพร่ระบาดอย่างหนักในช่วงเดือน ก.ค. จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต อันดับ 1 ของโลก ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 6.2 หมื่นราย ทุบสถิติมากที่สุดในช่วงรอบวัน มาอยู่ที่ 3,830,010 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 545 ศพ มาอยู่ที่ 140,906 ศพ เฉพาะรัฐนิวยอร์ก เสียชีวิตสูงสุดในสหรัฐฯ 32,506 ศพ
- โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปลี่ยนท่าทีไปจากเดิม เมื่อเขาทวีตข้อความระบุการสวมหน้ากากอนามัยเป็นการแสดงความรักชาติ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาปฏิเสธในการสวมหน้ากากอนามัย อ้างว่าไม่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการแพร่ระบาด พร้อมแสดงภาพประกอบขณะที่เขาสวมหน้ากากอนามัยเป็นครั้งแรก เมื่อครั้งไปเยือนศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์ รีด ในเมืองเบเทสดา รัฐแมรีแลนด์ เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา
- บราซิล ศูนย์กลางการแพร่ระบาดรุนแรงในลาตินอเมริกา ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต อันดับ 2 ของโลก ผู้ป่วยรายใหม่ชะลอตัวลงเล็กน้อยเพิ่มขึ้น 2.1 หมื่นราย มาอยู่ที่ 2,118,646 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 718 ศพ มากที่สุดในโลกในช่วงรอบวัน มาอยู่ที่ 80,120 ศพ ขณะที่เม็กซิโก ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 5,172 ราย มาอยู่ที่ 349,396 ราย อันดับ 7 ของโลก เสียชีวิตเพิ่ม 301 ศพ มาอยู่ที่ 39,485 ศพ
- อินเดีย อีกหนึ่งประเทศที่น่าห่วง ศูนย์กลางการแพร่ระบาดหนักในภูมิภาคเอเชีย ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 3.68 หมื่นราย มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในช่วงรอบวันมากกว่าบราซิล มาอยู่ที่ 1,155,338 ราย อันดับ 3 ของโลก และสูงสุดในเอเชีย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 596 ศพ มาอยู่ที่ 28,082 ศพ
- ขณะที่ทวีปแอฟริกา แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในพื้นที่ทางตอนใต้ของทวีป โดยเฉพาะแอฟริกาใต้ ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 9,300 ราย มาอยู่ที่ 373,628 ราย อันดับ 5 ของโลก เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 140 ศพ มาอยู่ที่ 5,173 ศพ ส่วนบอตสวานา เคนยา นามิเบีย แซมเบีย และซิมบับเว แม้ผู้ติดเชื้อยังน้อย แต่ได้เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
- เป็นข่าวดีของชาวโลก เมื่อ นพ.ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก แสดงความยินดีกรณีบริษัท AstraZeneca ผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สามารถพัฒนาวัคซีนสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการทดลองกับมนุษย์มากกว่า 1 พันคน พบว่าร่างกายสามารถสร้างแอนติบอดีและเม็ดเลือดขาว โดยยังคงอยู่ในช่วงเริ่มแรก และต้องมีหลักฐานชี้ชัดมากขึ้นเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนดังกล่าว
- ยอดผู้เสียชีวิตสะสมในญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นมาเป็น 988 ศพ จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 25,694 ราย โดยผู้เสียชีวิตจำนวน 13 ศพ เป็นผู้โดยสารเรือสำราญไดมอนด์ พรินเซส ซึ่งเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เรือลำดังกล่าวได้เข้าจอดเทียบท่าที่เมืองโยโกฮามา เพื่อกักตัวผู้โดยสารเป็นเวลา 14 วัน
- กลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อนบ้านของไทย ขณะนี้อินโดนีเซียยังคงมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตอันดับสูงสุด ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 1,693 ราย มากที่สุดในอาเซียน มาอยู่ที่ 88,214 ราย อันดับ 25 ของโลก เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 96 ศพ มาอยู่ที่ 4,239 ศพ ตามมาด้วยฟิลิปปินส์ ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 1,442 ราย มาอยู่ที่ 68,898 ราย อันดับ 30 ของโลก เสียชีวตเพิ่มขึ้น 4 ศพ มาอยู่ที่ 1,835 ศพ ส่วนสิงคโปร์ เร่ิมคลี่คลายลง ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 123 ราย มาอยู่ที่ 48,035 ราย อันดับ 43 ของโลก เสียชีวิตคงที่ 27 ศพ
- ไทย อันดับที่ 102 ของโลก มีผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย เดินทางกลับจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 3,255 ราย แยกเป็นผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศ 2,444 ราย และอีก 310 ราย เดินทางกลับจากต่างประเทศเข้าพักสถานที่เฝ้าระวัง State Quarantine รักษาหายแล้ว 3,105 ราย ยังรักษาตัวอยู่ รพ. 92 ราย เสียชีวิตคงที่ 58 ศพ ส่วนการตรวจหาเชื้อในกรณีสอบสวนโรคใน จ.ระยอง และกรุงเทพฯ รวมทั้งสิ้น 7,144 ราย ไม่พบเชื้อ
- ผู้ป่วยรายแรก นักศึกษาชายไทย อายุ 26 ปี เดินทางมาจากญี่ปุ่นถึงไทยวันที่ 7 ก.ค. ผ่านการคัดกรอง ด่านควบคุมโรค มีอาการเข้าเกณฑ์ PUI มีอาการไข้ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล จ.สมุทรปราการ ตรวจหาเชื้อช่วงแรกไม่พบเชื้อ เข้าพักสถานที่เฝ้าระวัง State Quarantine ในกรุงเทพฯ กระทั่งวันที่ 18 ก.ค. ตรวจพบเชื้อ มีอาการจมูกไม่ได้รับกลิ่น
- ผู้ป่วยอีก 3 ราย นักศึกษาชายไทย อายุ 20, 25 ปี และอายุ 28 ปี เดินทางจากอียิปต์ เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยก่อนหน้า 8 ราย มาถึงไทยวันที่ 8 ก.ค. เข้าพักสถานที่เฝ้าระวัง State Quarantine จ.ชลบุรี ทั้งหมดไม่มีอาการใดๆ ตรวจพบเชื้อวันที่ 19 ก.ค.
- ผู้ป่วยอีกราย ชายไทย อายุ 35 ปี เดินทางจากซูดานถึงไทยวันที่ 18 ก.ค. ผ่านการคัดกรอง ด่านควบคุมโรค มีอาการปวดจากโรคไส้เลื่อน เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล จ.สมุทรปราการ และตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 18 ก.ค. โดยไม่มีอาการ
- จำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่รักษา ทั้งผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศ และผู้ป่วยกลับจากต่างประเทศเข้าพักสถานที่เฝ้าระวังใน State Quarantine โดยกรุงเทพฯ และนนทบุรี มีจำนวน 1,792 ราย ภาคใต้ 744 ราย ภาคกลาง 513 ราย ภาคอีสาน 111 ราย และภาคเหนือ 95 ราย
- แม้ไทยไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศมานาน 50 กว่าวัน แต่ล่าสุด ศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาเตือนไทยยังมีความเสี่ยงมากขึ้นทั้งศึกนอกและศึกใน โดยต้องจับตาดูการปลดล็อกระยะที่ 5 กิจการเสี่ยงสูงตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา และบทเรียนของต่างประเทศ มักจะเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายใน 2-6 สัปดาห์ ซึ่งต้องช่วยกันระมัดระวังกันมากขึ้นถึงกลาง ส.ค.นี้
- ส่วนฟองสบู่ท่องเที่ยว หรือ Travel bubbles เป็นความเสี่ยงระดับสูงสุด เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันมีการระบาดทั่วโลกรุนแรง จำเป็นต้องวางเรื่องนี้ไว้บนหิ้งไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน แล้วค่อยมาประเมินสถานการณ์อีกที.
อ่านเพิ่มเติม...
July 21, 2020 at 01:34PM
https://ift.tt/2ZOFdFY
ป่วยโควิด 14.7 ล้านคน ตาย 6.09 แสนศพ ไทยแลนด์ดีขึ้น อันดับโลก 102 - ไทยรัฐ
https://ift.tt/3d8X1Q9
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ป่วยโควิด 14.7 ล้านคน ตาย 6.09 แสนศพ ไทยแลนด์ดีขึ้น อันดับโลก 102 - ไทยรัฐ"
Post a Comment