สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ว่าสำนักงานเลขาธิการ "ศาลยุติธรรมแห่งสาธารณรัฐ" ซึ่งเป็นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้งปัจจุบันและในอดีตของฝรั่งเศส ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ เรื่องการแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อสอบสวนเจ้าหน้าที่ระดับสูง 3 คน เกี่ยวกับการมาตรการรับมือวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งในฝรั่งเศสมีผู้เสียชีวิตสะสมเกือบ 30,000 คน จากจำนวนผู้ป่วยสะสมมากกว่า 200,000 คน
สำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงซึ่งต้องเข้ารับการตรวจสอบ ได้แก่ นายเอดูอาร์ ฟิลิป อดีตนายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของกระทรวงสาธารณสุขอีก 2 คน คือนายโอลิวิเยร์ เวราน รัฐมนตรีว่าการคนปัจจุบัน และนางแอกเนส บูซิน อดีตรัฐมนตรีว่าการ ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง "รับทราบและยอมรับ" ผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจจากวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการขาดแคลนหน้ากากอนามัย ซึ่งตอนนี้ภาครัฐแก้ปัญหาด้วยการรณรงค์ให้ประชาชนใช้หน้ากากผ้า การตรวจคัดกรองที่ไม่ทั่วถึง และการไม่บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ "ให้เร็วกว่านี้"
หากอดีตเจ้าหน้าที่คนใดคนหนึ่งหรือทั้งสามคนถูกดำเนินคดีจริง มาครงจะยังคงได้รับการยกเว้น เนื่องจากยังคงอยู่ในตำแหน่งผู้นำประเทศ ที่รัฐธรรมนูญมอบสิทธิคุ้มกันทางการเมืองให้ อย่างไรก็ตาม ก่อนการประกาศของศาลเพียงไม่กี่ชั่วโมง ฟิลิปยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งต่อมาครง ซึ่งค่อนข้างเป็นไปตามความคาดหมายของทุกฝ่าย เนื่องจากเจ้าตัวชนะการเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ในตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองเลอ ฮาฟร์ หนึ่งในเมืองท่าทางตอนเหนือ และ "ไม่เหมาะสมนัก" หากฟิลิปจะควบสองตำแหน่ง

นายเอดูอาร์ ฟิลิป ส่งมอบตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้กับนายฌ็อง กาสเต็กซ์
นอกจากนี้ มาครงบริหารประเทศมาแล้วนานกว่าครึ่งเทอม และเป็นธรรมเนียมของผู้นำฝรั่งเศสทุกคนที่เลือกปรับคณะรัฐมนตรีในเวลานี้ ซึ่งเพียงไม่นานหลังฟิลิปประกาศลาออก มาครงแต่งตั้งนายฌ็อง กาสเต็กซ์ ข้าราชการพลเรือนอาวุโส วัย 55 ปี ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แม้กาสเต็กซ์ไม่เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของสื่อมวลชนมากนัก แต่มีการให้ข้อมูลว่า คาสเต็กซ์ทำงานอยู่เบื้องหลังในทีมด้านสาธารณสุขเพื่อแก้ไขวิกฤติโรคโควิด-19 มานานระยะหนึ่งแล้ว และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรการล็อกดาวน์ด้วย
ด้านนายกรัฐมนตรีป้ายแดงกล่าวทีเล่นทีจริงกับบรรดาผู้สื่อข่าว ขอให้สนใจ "ผลงาน" มากกว่าตัวบุคคล และกล่าวว่าตอนนี้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจคือวาระเร่งด่วนที่สุด หลังมีการวิเคราะห์ว่า วิกฤติโรคระบาดโควิด-19 จะส่งผลให้เศรษฐกิจของฝรั่งเศสอาจหดตัวมากถึง 11% ในปีนี้ เป็นสถิติมากที่สุดนับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง และตามมาด้วยการเลิกจ้างแรงงานอีกเป็นจำนวนมาก.
เครดิตภาพ : AFP
July 04, 2020 at 07:54AM
https://ift.tt/2YY4Fbn
ศาลสูงฝรั่งเศสสอบอดีตนายกฯ กรณีรับมือโควิด-19 - เดลีนีวส์
https://ift.tt/3d8X1Q9
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ศาลสูงฝรั่งเศสสอบอดีตนายกฯ กรณีรับมือโควิด-19 - เดลีนีวส์"
Post a Comment