คอลัมน์สามัญสำนึก สมปอง แจ่มเกาะ
อาทิตย์ที่ผ่านมา (13-17 กรกฎาคม) มีเรื่องร้อน ๆ ข่าวใหญ่ ๆ ปะทุขึ้นมาในเวลาไล่เลี่ยกัน 2 เรื่อง 2 อารมณ์
น่าติดตามทั้ง 2 เรื่อง และไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
เรื่องแรก เป็นกรณีทหารอียิปต์เป็นโควิด-19 ที่โผล่ไปเดินช็อปปิ้งในระยอง แทนที่จะพักอยู่ในสถานเฝ้าระวังที่ทางการจัดหาให้ และในวันเดียวกันยังมีข่าวเด็กหญิงอายุ 9 ขวบ ครอบครัวทูตซูดาน ตรวจพบว่าเป็นโควิด-19 และพักอยู่ในคอนโดฯ
ทันทีที่ข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป ความแตกตื่นโกลาหลก็เกิดขึ้นทันที ตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนถึงความหละหลวมบกพร่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเรียกร้องให้ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยเฉพาะที่ระยองนั้นแทบลุกเป็นไฟ ป้ายประท้วงป้ายก่นด่า พรึ่บเลยทีเดียว และมีตัวแทนมายื่นหนังสือถึงนายกฯ จี้ให้ลาออกด้วย
ร้อนถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต้องวิ่งหน้าตั้งลงพื้นที่โดยด่วน
การทำมาค้าขายของคนระยองเพิ่งจะเริ่มฟื้นตัวสร่างไข้มาได้ไม่กี่วัน พอมาเจอเรื่องนี้เข้าไปถึงกับ “ร่วงทั้งยืน” กันเลยทีเดียว
ลูกค้าโรงแรม รีสอร์ต ร้านอาหาร ยกเลิกงานเกลี้ยง อย่าสงสัยเลยครับว่า ทำไมพี่น้องชาวระยองเขาถึง “ลุกเป็นไฟ”
เป็นที่รับรู้กันดีว่า ระยอง เป็นจังหวัดที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) สูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ด้วยตัวเลขสูงถึง 984,980 ล้านบาท และยังเป็นจังหวัดที่มีจีพีพียืนเป็นอันดับ 1 ของประเทศมานานหลายปีแล้ว
นอกจากในแง่ของมูลค่าผลิตภัณฑ์ต่อหัวประชากรก็ยังสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศอีกเช่นกัน ตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 1,143,740 บาท/คน/ปี เลยทีเดียว
ในระยองมีนิคมอุุตสาหกรรมมากกว่า 20 นิคม และโรงงานมากกว่า 3 พันโรง ทั้งโรงงานรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ โรงงานแปรรูป
ส่วนเรื่องท่องเที่ยวก็มีครบ ไม่เป็นรองใคร ไม่ว่าจะเป็นทะเล ชายหาดที่สวยงาม ภูเขา น้ำตก เกาะ อาหารทะเล สวนผลไม้ แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไปเยือนเมืองระยองไม่ต่ำกว่า 7-8 ล้านคน และทำรายได้เข้าจังหวัดมากกว่า 33,811 ล้านบาท
นี่คือคำตอบ…คนระยอง เขาอยากจะกลับมาทำมาหากิน กลับมามีชีวิตเหมือนเดิม เขารู้รสความทุกข์ยากลำเค็ญมาพอแล้ว ช่วงโควิดระบาด คนตกงาน ไม่มีงานทำ ไม่มีเงิน ไหนจะปากท้องลูกเมีย ไหนจะค่าเทอม ไหนจะหนี้สินจิปาถะ
เขากลัวเรื่องนี้ และเริ่มไม่เชื่อน้ำยารัฐบาล
ส่วนข่าวร้อนเรื่องใหญ่ถัดมา เป็นแนวการเมือง ที่สะเทือนไปทั้งยุทธภพ
ใช่ครับข่าว การปรับคณะรัฐมนตรี
แม้จะเริ่มมีกระแสมาระยะหนึ่ง แต่ยังไม่ถึงจุดสุกงอม แต่ล่าสุด การลาออกของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ พร้อมด้วย 4 รัฐมนตรี นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
เป็นตัวแปรที่เร่งให้นายกรัฐมนตรีต้องปรับ ครม.เร็วขึ้น
ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (16 กรกฎาคม) พลเอกประยุทธ์ให้สัมภาษณ์นักข่าวก็มีไทม์ไลน์ที่ชัดเจนขึ้น คาดว่าภายในสิงหาคมก็น่าจะได้เห็นรูปร่างหน้าตาคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
ช่วงนี้คงวิ่งกันฝุ่นตลบแน่
ต้องติดตามต้องลุ้นกันต่อไปว่า คนนอกหรือคนใน ใครจะเป็นเจ้ากระทรวงไหน อย่างไร ใครจะได้คุมกระทรวงสำคัญ
แต่ก็มีคำถามตามมาว่า ครม.ใหม่ที่ว่า จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นและช่วยฟื้นเศรษฐกิจได้หรือไม่
เปิดชื่อออกมาขอให้ “ปัง” จริง ๆ เหอะ…เพี้ยง
ไม่ใช่ว่าเปิดชื่อมาแล้วแต่เป็น “ปัง…ปินาด”
งั้นคงไม่ไหวแน่
July 19, 2020 at 08:00AM
https://ift.tt/2CR9ScI
งานหนัก ! - ประชาชาติธุรกิจ
https://ift.tt/3d8X1Q9
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
Bagikan Berita Ini
0 Response to "งานหนัก ! - ประชาชาติธุรกิจ"
Post a Comment