
เจ้าของรีสอร์ทสามร้อยยอด แจงคลิปดราม่าโวยเดือด ปัดตบหน้าลูกค้า อ้างลูกค้าไม่แจ้งเช็กเอาต์ช้า เหตุต้องเก็บของเพราะมีลูกค้าใหม่เข้าเช็กอิน
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพและข้อความอ้างว่า ตนเองได้เข้าพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง แถวสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปเที่ยวข้างนอก กลับมาไม่ทันเช็กเอาต์ โดนขนข้าวของไปไว้หน้าห้องครัว ซ้ำโดนเจ้าของซึ่งเป็นชาวต่างชาติและภรรยาชาวไทยต่อว่า ทำร้ายร่างกาย ซึ่งต่อมากลายเป็นประเด็นที่โลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากนั้น
ล่าสุด วันที่ 23 ส.ค.63 น.ส.สายใจ เจ้าของรีสอร์ตที่ปรากฏในคลิป เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาติดต่อห้องพักในราคาแค่ 399 บาท ซึ่งเหลือห้องเดียวคือห้องที่ 13 ทั้งรีสอร์ตเต็มหมด พอถึงเวลาชำระเงิน ลูกค้าได้ขอต่อราคา แต่ราคานี้ทั่วทั้งหาดถูกสุดแล้ว จากนั้นตนได้สอบถามว่า "จะรับอาหารเช้าไหม อาหารเช้า 2 ท่าน 499 บาทไหม" ทางลูกค้าที่เป็นผู้หญิงจึงไปสอบถามแฟนแล้วกลับมาบอกว่า "เดี๋ยวพรุ่งนี้บอกแล้วกัน"
ตนจึงแจ้งว่า ถ้าจ่ายคืนนี้ 2 คน เพิ่ม 100 ถ้าพรุ่งนี้จะรับอาหารเช้าต้องจ่ายท่านละ 59 บาท ทางลูกค้าจึงต่อรองให้ตนบอกพนักงานว่าพรุ่งนี้ยกเว้นให้ 50 บาท แต่ตนบอกไปว่าไม่ได้ สุดท้ายทางลูกค้าจึงจ่ายมา 499 บาท พร้อมกับถามว่ารับบัตรเครดิตไหม ตนก็บอกว่ารับเฉพาะเงินสด ซึ่งทางลูกค้าแจ้งพี่ไม่มีกระเป๋าตังค์มา พี่ไม่มีโทรศัพท์มา โทรศัพท์แบตหมด มีแต่บัตรเครดิต ลูกค้าผู้หญิงจึงเดินกลับไปหาแฟนแล้วเอาเงินสดมาจ่าย แล้วถามว่าแค่นี้ใช่ไหมและขอนามบัตร ซึ่งขณะนั้นนามบัตรหมดพอดี จึงแจ้งลูกค้าไปว่าเช็กเอาต์เที่ยง อาหารเช้าเริ่มแปดโมงถึงสิบโมงเช้า

หลังจากนั้นตนก็มาดูบุ๊กกิ้ง ปรากฏว่าพรุ่งนี้มีเหลือห้องว่าง 1 ห้อง เพราะลูกค้ารายดังกล่าวแจ้งมาอยู่แค่คืนเดียว ทั้งรีสอร์ตเต็มหมด จึงเปิดขายห้องว่างผ่านทางเว็บไซต์ ไม่นานก็มีคนจองพอดี ก็ขายห้องไป หลังจากนั้นตื่นเช้ามาก็ไปทำงานตามปกติทุกวัน แฟนก็อยู่บ้าน
ต่อมาพนักงานแจ้งมาว่า มีลูกค้าที่จองไว้จะมาเช็กอิน พนักงานบอกให้รอสักครู่ เพราะลูกค้าเก่ายังไม่ได้เช็กเอาต์ พนักงานเลยโทรตามช่างกุญแจให้มาเปิด เพราะเคยมีลูกค้าเช็กเอาต์แล้วไปเลยไม่คืนกุญแจ ทางรีสอร์ตไม่ได้มีค่ามัดจำกุญแจเลยเข้าใจว่าลูกค้าไปแล้ว เพราะตอนนั้น 15.00 น. พนักงานจะต้องทำความสะอาดให้ลูกค้าใหม่ หลังจากช่างมาเปิดห้องแล้วจึงรู้ว่าของลูกค้ายังอยู่เต็มห้องเลย แล้วไม่บอกเลยว่าจะอยู่ต่อหรือไม่ จะเช็กเอาต์ช้าหรืออย่างไรก็ไม่แจ้ง ลูกค้าใหม่มาถึงแล้ว จึงต้องเก็บของมาไว้ที่หลังเคาน์เตอร์ ไม่ใช่หน้าห้องครัว ยืนยันว่าพนักงานคงไม่ขโมยของเพราะต้องทำความสะอาดให้ลูกค้าทุกห้องอยู่แล้ว
เจ้าของรีสอร์ตอ้างต่อว่า หลังจากนั้นประมาณ 17.00 น. แฟนโทรบอกว่าลูกค้ามาโวยวายว่ามีสิทธิ์อะไรเอาของเขาออกมาจากห้อง ลูกค้าผู้หญิงบอกว่า เขามาติดต่อตอนเช้าแล้ว ไม่มีใครอยู่เลย เขายังพูดเลยว่า แปลกนะรีสอร์ตนี้ตอนเช้าไม่มีใครอยู่เลย แต่ตอนเช้าเขานั่งทานข้าวเช้า แล้วคุยกับแฟนอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ทำไมไม่บอกเราว่าจะอยู่ต่อ หรือเช็กเอาต์ช้า และน้องพนักงานถึงเขาจะเป็นต่างชาติ แต่เขาก็ฟังและพูดภาษาไทยรู้เรื่อง คุณบอกว่าคุณไม่อยากจะดูถูกพนักงานหรอก กลัวเขาฟังไม่รู้เรื่อง แต่เขาฟังรู้เรื่อง

ส่วนสาเหตุที่ตนโมโหขนาดนั้น ก็เพราะก่อนหน้าคลิปนั้น ยังกลับมาไม่ถึงบ้าน แฟนโทรบอกว่าลูกค้ามาโวยวาย จะแจ้งความ แล้วพอตำรวจมา เขาไม่ใช่แค่โวยวายอย่างเดียว เขาถ่ายคลิปทั้งรีสอร์ต แล้วบังคับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจเวิร์คเพอมิต ซึ่งเขาไม่มีสิทธิ์ แล้วเขายังดูถูกน้องเราว่าไม่มีใบประกอบการทำงาน คือ 1. ว่าพนักงานของเราไม่มีเวิร์คเพอมิต แต่ของเรามีค่ะ มีครบถ้วน ตำรวจ นักท่องเที่ยว ตม. มาเช็กหมดแล้ว แล้วเขาก็ถ่ายที่ตู้เย็น ที่ขวดเบียร์ว่ามีใบประกอบการ มีใบอนุญาตขายสุราหรือไม่ เรามีใบอนุญาตเปิดร้านอาหาร ใบอนุญาตขายสุราทั้งไทยและต่างประเทศ ไม่ยอมอีก จะจับผิดอย่างนั้นอย่างนี้
ตอนนั้นแฟนก็นั่งอยู่เฉยๆ จนทนไม่ไหวต้องออกมาว่ากล่าวให้พวกเขาออกไป พอว่าให้เขาออกไป คลิปที่เขาเอามาลง เขาก็ลงเฉพาะตอนที่แฟนต่อว่าเขา ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาไม่เอาลง จากนั้นคลิปที่ 2 คือเรากลับมาถึงบ้าน เขาก็หยิบกล้องถ่ายเลย ถามว่าเป็นใครนะ เป็นอาจารย์อยู่ที่โรงเรียนไหน เขาไม่มีสิทธิ์ถ่ายหน้าตนตรงนั้น เขาต้องขออนุญาก่อน ส่วนเรื่องที่บอกว่า ตนตบหน้า ถ้าคุณเสพข่าวอย่างมีสติ ไม่ได้ตบหน้าเขา แต่ปัดโทรศัพท์ ดูได้จากคลิปเลยว่าเป็นเสียงตบหน้า หรือเสียงปัดโทรศัพท์

"ถ้าเราตบหน้าเขา มือเขาถือโทรศัพท์อยู่จะต้องเห็นว่าเราปัดโทรศัพท์ ไม่ได้ตบหน้า แล้วที่เราด่าเขาว่า ตอ_ เพราะเราไม่ได้ตบหน้าเขา เราก็เลยด่าเขาไปว่าตอ_ นั่นคือความจริง จากนั้นเขาก็ไปแจ้งความ ว่าเราทำร้ายร่างกายเขา ตำรวจก็ให้ไปตรวจร่างกายว่าโดนทำร้ายร่างกายไหม เขาก็ไม่ยอมตรวจ จะไปตรวจได้ยังไง ก็เราไม่ได้ตบหน้าเขา เสร็จแล้วเขาก็ไปแจ้งความที่ สภ.สามร้อยยอด แล้วตำรวจก็มาไกล่เกลี่ย ที่เขาแจ้งความไว้คือ 1. ทำร้ายร่างกายเขา
2. แฟนหมิ่นประมาทเขาว่า ติดยา เขาแปลภาษาอังกฤษไม่ถูก แฟนไม่ได้พูดเลยค่ะว่าเขาติดยา ข้อที่เรายอมรับว่าเราผิด คือคืนนั้นเราไม่ได้ขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อเขาไว้ เพราะคิดว่าแจ้งเขาไปแล้ว ว่าเช็กเอาต์เที่ยง แจ้งรายละเอียดทุกอย่างแล้ว นี่คือความผิดของเราที่เราไม่ขอเบอร์โทรติดต่อ เราก็ยินดีขอโทษ แต่เรื่องที่เราไม่ผิด คือหาว่าเราตบหน้าเขา ซึ่งเราไม่ได้ทำ เราก็ไม่ขอโทษ.
อ่านเพิ่มเติม...
August 23, 2020 at 10:29AM
https://ift.tt/2FPRVN1
เจ้าของรีสอร์ท แจงคลิปเดือด ปัดตบหน้า เผยลูกค้าเช็กเอาต์ช้าหลายชั่วโมง - ไทยรัฐ
https://ift.tt/2X7bCpV
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
Bagikan Berita Ini
0 Response to "เจ้าของรีสอร์ท แจงคลิปเดือด ปัดตบหน้า เผยลูกค้าเช็กเอาต์ช้าหลายชั่วโมง - ไทยรัฐ"
Post a Comment